ทำไมหน้าเหี่ยว มี wrinkled ผิวไม่กระชับ ทำยังไงให้หน้าตึง

ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ริ้วรอย

ผิวหน้าหย่อนคล้อยปัญหาที่พบได้ในผู้ที่มีอายุมากขึ้น วัยที่เปลี่ยนไปสาเหตุจากความเสื่อมของคอลลาเจน (collagen) และอิลาสติน (elastin) โปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตามมา นอกจากการผลิตโปรตีนลดลงยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยได้

สาเหตุทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เกิดริ้วรอย

ริ้วรอย ตีนกา ผิวเหี่ยว
  • การสูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์
  • นอนหลับไม่เพียงพอ
  • สัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป
  • น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว
  • การผ่าตัดหรือการบาดเจ็บ

วิธีดูแลผิวหน้า ชะลอการหย่อนคล้อย

1. ทาครีมบำรุงผิว 

ครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้ามีมากมายในท้องตลาด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ 

  • ครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน (collagen) และอิลาสติน (elastin) ในการกระตุ้นและเติมเต็มโปรตีนทั้งสองชนิดในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวกลับมายืดหยุ่นและกระชับขึ้น
  • กรดไฮยาลูรอนิค (hyaluronic acid) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่น โดยทั่วไปร่างกายของเราจะมีกรดไฮยาลูรอนิคอยู่แล้ว โดยพบมากที่สุดในผิวหนัง ดวงตา และข้อต่อ กรดไฮยาลูรอนิคมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำถึง 1,000 เท่า ทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ปกป้องผิวจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ
  • วิตามินซี (vitamin c) สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี มลภาวะ และปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี
  • เรตินอล (Retinol) เป็นสารในกลุ่มวิตามินเอ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ทำให้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นช่วยลดริ้วรอยและกระชับรูขุมขน
  • สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ โจโจบาออยล์ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและยืดหยุ่น

เมื่อเลือกครีมช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ควรเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ควรทาครีมวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง 

ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น  ส้ม เกรปฟรุต มะนาว มะนาว และส้มโอ มะละกอ กีวี สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ ผักที่มีวิตามินซีสูง เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ กะหล่ำปลี บร็อคโคลี กะหล่ำดาวและผักโขม

3. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อย 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ 

  • การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น ผิวจึงดูสดใสสุขภาพดี
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน 
  • ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ลดการหย่อนคล้อยของผิว
  • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ผิวให้กระชับขึ้น
การออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับการกระชับผิว ได้แก่ 
  • การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน 
  • การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เช่น การยกน้ำหนัก การดึงข้อ การวิดพื้น การออกกำลังกายแบบโยคะ และพิลาทิส

5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

  • บุหรี่ : ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและไขมัน ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ
  • แอลกอฮอล์ : ทำให้ผิวขาดน้ำ ขาดสารอาหาร และสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และจุดด่างดำ

6. สวมหมวก แว่นตากันแดด 

แว่นตากันแดดมีความสามารถในการกันแดดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุของเลนส์ ควรเลือกแว่นกันแดดที่ผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตหรือไทเทเนียม ความเข้มของสีเลนส์ เช่น สีดำ น้ำตาล และสีเทา  เลนส์ตัดแสงสะท้อน ช่วยลดแสงสะท้อนจากพื้นผิวน้ำ กระจก และถนน ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

แว่นตากันแดดที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้
  • เลนส์ป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100%
  • เลนส์ตัดแสงสะท้อน
  • เลนส์มีสีเข้มพอสมควร
  • เลนส์มีขนาดใหญ่พอที่จะปกปิดดวงตาได้ทั้งหมด

7. ทาครีมกันแดด เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า และป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB

  • ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15 นาทีก่อนออกแดด
  • ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากคุณเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการทาครีมกันแดดบนดวงตา ในกรณีที่ต้องทาบนบริเวณรอบดวงตาให้หลีกเลี่ยงการทาใกล้ดวงตามากเกินไป

8. ลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้ำหนักลดเร็ว อ้วนขึ้นเร็ว ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ เนื่องจากผิวหนังต้องยืดและหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการบาดเจ็บและยังส่งผลกระทบต่อการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวเมื่ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดรอยย่น รอยเหี่ยวย่น และรอยแตกลาย

การลดน้ำหนักควรค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวปรับสภาพและยืดหยุ่นตามน้ำหนักที่ลดลง หลีกเลี่ยงการอดอาหารหรือกินยาลดความอ้วน เนื่องจากวิธีเหล่านี้ทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้เช่นกัน 

9. ฟื้นฟูผิวให้กระชับด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ 

Smart ND Laser กระชับผิวให้เรียบตึงด้วยพลังความร้อน (RF) ผ่านเข็มไปยังชั้นผิวหนัง กระตุ้นให้ผิวหน้ายกเรียวสวยทันทีและค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายใน 1 เดือน

โปรแกรมฟิลเลอร์ เติมเต็มผิวให้อิ่มฟูด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิค ผิวเปร่งปรั่ง อิ่มชุ่มชื่น เรียบเนียน ขึ้นอย่างสัมผัสได้ เห็นผลไวและควรเข้ารับบริการซ้ำ ตามคำแนะนำของแพทย์ ข้อควรระวังของการเข้ารับบริการโปรแกรมฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกผู้ให้บริการโดยแพทย์ประสบการณ์และสามารถตรวจสอบได้ ทั้งรายชื่อแพทย์กับแพทย์สภา รวมทั้งผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้เท่านั้น! ลดความเสี่ยงอันตรายจากโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน