โรคแทรกซ้อนในผู้มีภาวะ ตับอ่อนแอ (Liver disease)
ความเจ็บป่วย สุขภาพทรุดโทรมย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยเฉพาะโรคที่ไม่คาดฝันและเมื่อเกิดความอ่อนแอแล้วยังส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ แทรกซ้อน เสี่ยงต่อชีวิต นั่นก็คือ โรคเกี่ยวกับตับ ที่นับวันก็มีอัตราความเจ็บป่วยสูงขึ้นทุกที ไม่เพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น ในวัยเด็ก วัยรุ่นก็ยังพบผู้ที่มีอาการแทรกซ้อนจากโรคตับเช่นเดียวกัน มะเร็งตับนับเป็นโรคที่พบได้บ่อยให้ประชาชนชาวไทย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตรวมทั้งอาหารที่รับประทาน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมถ้าไม่อยากให้ตับป่วย
“โรคตับ” ( liver ) ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่มีอัตราควาเจ็บป่วยมากขึ้นทุกปี ในบางรายอาจไม่ทราบด้วยซ้ำว่า กำลังเผชิญกับโรคร้ายนี้อยู่ แม้ว่าในผู้ป่วยบางรายก็พยายามรักษาให้หายและยากจะฟื้นคืนจนทำให้โรคตับนั้นทำลายสุขภาพร่างกายจนถึงแก่ชีวิต เช่น
- ตับแข็ง
- ไวรัสตับอักเสบ
- ไขมันพอกตับ
- มะเร็งตับ
ตับ เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก นอกจากดูดซึมสารอาหารเพื่อไปล่อเลี้ยงร่างกายและอวัยวะต่างๆแล้ว ตับยังเป็นพื้นที่สะสมสารอาหารชั้นดีและจะถูกดึงนำมาใช้เมื่อร่างกายได้รับสารประโยชน์ไม่มากพอ และตับยังมีหน้าที่สำคัญในการกำจัดของเสีย เชื้อโรคต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเรียกว่า ร่างกายจะมีสุขภาพดีหรือไม่นั้น ตับ เป็นด่านแรกและด่านสำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตและดูแลอวัยวะอื่นๆ และระบบการทำงานของร่างกายเลยทีเดียว
ตับเจ็บป่วยหรืออ่อนแอได้ง่าย
เพียงแค่เกิดการอักเสบหรือดูแลร่างกายไม่เพียงพอและยังรวมถึงพฤติกรรมเหล่านี้
อะไรเป็นสาเหตุทำให้ตับไม่แข็งแรง ตับป่วย
- กรรมพันธุ์จากครอบครัว
- วัยที่มากขึ้น โดยมากมักเกิดขึ้นหลังอายุ 50 ปีเป็นต้นไป
- สภาพแวดล้อม อาหารที่รับประทาน เช่น อาหารสุก-ดิบ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป
- ภาวะความเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ เช่น ความดันสูง น้ำตาลในเลือดสูง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ความเครียด
- ยารักษาโรค ยาสมุนไพร บางชนิดในปริมาณมากและติดต่อกันระยะเวลานาน
- สารพิษบางชนิดที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน
ไม่อยากให้ตับป่วย ดูแลตัวเองด่วนด้วยวิธีเหล่านี้
- นอนหลับให้เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องนอนแต่หัวค่ำ แต่ควรนอนหลับสนิทในระยะเวลา 6 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปและอาหารที่มีส่วนผสมของสารกันบูด สารกันเสีย
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารค้างคืน ควรทานอาหารที่ปรุงสุกสดใหม่อย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ทั้ง ฝุ่น ควัน สารเคมี สารหนู บุหรี่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ทานอาหารเสริมบำรุงตับให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น
- Dandelion Root Extract
- Apple Vinegar
- L-methionine
- Selenium
- Brewer’s Yeast Extract
- Evening Primrose Oil
- Inositol
- Choline
- Phosphatidylcholine
ดังจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมบางอย่างคุณอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงในสารพิษ โรงงานผลิต ช่างที่ต้องสัมผัสสารเคมี แม่บ้าน และอีกมากมาย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของตับ หากพบความผิดปกติ เช่น
- ท้องบวม ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
- นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นง่าย
- รู้สึกอ่อนเพลีย
- การขับถ่ายผิดปกติ อุจจาระมีสีอ่อนและปัสสาวะมีสีเข้ม
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ปวดแน่นบริเวณใต้ชายโครง
อาการเหล่านี้ควรพบแพทย์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการตรวจรักษาและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี สุขภาพตับเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด ดูแลตับให้แข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติก่อนจะสายเกินแก้
โรคเกี่ยวกับตับที่พึงระวัง
ตับแข็ง
พบได้บ่อยในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากกว่า 30 กรัมต่อวัน (ในเพศชาย) และ มากกว่า 15 กรัมต่อวัน (ในเพศหญิง) และติดต่อกันเป็นเวลานาน
ตับอักเสบ
เกิดจากไขมันพอกตับ หรือติดเชื้อไวรัสส่งผลให้ไขมันในเลือดและตับสูง โดยมากพบได้บ่อยในผู้ที่ทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้เซลล์ตับอ่อนแอ
ตับอ่อนอักเสบ
ไขมันพอกตับ มักเกิดขึ้นในผู้ที่ชอบทานอาหารหวานและมัน รวมทั้งไม่ค่อยออกกำลังกาย การรับประทานอาหารประเภทนี้ส่งผลให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันและไขมันพอกตับได้อย่างง่ายดาย
ไวรัสตับอักเสบบี / ไวรัสตับอักเสบซี
- ติดต่อได้ง่ายทางสารคัดหลั่ง เช่น เลือด น้ำเชื้อ ยกเว้นน้ำลายและการให้นมบุตรผู้ที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่ชื่นชอบการสักและเจาะบริเวณร่างกาย
- รับประทานอาหารที่ไม่สะอาด
สามารฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบี ได้ตามโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
โรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- โรคฝีตับ
- โรคพญาธิใบไม้ตับ
- โรคภูมิต้านทานตนเอง
- โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งเซลล์ท่อน้ำดี มะเร็งเซลล์ตับ
โรคเหล่านี้หากไม่เข้ารับการรักษาก็มีโอกาสเสี่ยงต่อตับแข็งและมะเร็งตับ โดยมากหากตับของคุณเจ็บป่วย อยู่ในสภาวะตับอ่อนแอ หรือแม้แต่กำลังเผชิญกับโรคเกี่ยวกับตับมักไม่แสดงอาการอย่างเด่นชัด ทำให้จำนวนผู้ป่วยมากขึ้นและในผู้ป่วยที่เผชิญกับโรคนี้ก็ยังรักษาให้หายได้ยาก ดังนั้นก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงต่อโรคภัยการดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดให้มีสุขภาพดีจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความใส่ใจอย่างมาก
การป้องกันโรคตับ นอกจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงแล้ว ยังช่วยให้คุณรับมือกับภาวะความเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อชีวิตที่มีความสุข ดูแลรักษาตับให้แข็งแรงกันเถอะ